้neverzero

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

กระทรวงการคลัง


กระทรวงการคลัง (อังกฤษMinistry of Finance) เป็นหน่วยงานราชการไทยประเภทกระทรวง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินของแผ่นดิน การภาษีอากร การรัษฎากร กิจการเกี่ยวกับที่ดินราชพัสดุ กิจการอันกฎหมายบัญญัติให้เป็นการผูกขาดของรัฐ กิจการหารายได้ซึ่งรัฐมีอำนาจดำเนินการได้แต่เพียงผู้ เดียวตามกฎหมายและไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรมอื่น และกิจการซึ่งจะเป็นสัญญาผูกพันต่อเมื่อรัฐบาลได้ให้อำนาจหรือสัตยาบัน รวมทั้งการค้ำประกันหนี้ของส่วนราชการและองค์การรัฐ สถาบันการเงินและรัฐวิสาหกิจ

เนื้อหา

 [ซ่อน]

[แก้]สถานที่ตั้งและติดต่อ

ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 02-273-9021 โทรสาร 02-273-9408 เว็บไซต์www.mof.go.th

[แก้]ประวัติความเป็นมาของกระทรวงการคลัง

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ผู้ชายมาจากดาวอังคารผู้หญิงมาจากดาวศุกร์(หนังสือ)

ความรักทำให้ชาวอังคารตื่นตัว
ชาวอังคารเริ่มสร้างยานอวกาศที่สามารถนำพวกเขาไปยังดาวศุกร์ได้
พวกเขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้มาก่อน เมื่อมองไปยังดาวศุกร์
ความรู้สึกเห็นแก่ตัวของเขาก็ลดน้อยลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ในทำนองเดียวกัน เมื่อผู้ชายตกหลุมรัก เขาจะถูกกระตุ้นให้ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อบริการผู้อื่น
เขาเชื่อมั่นว่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ นี่เป็นเวลาที่เขาจะพิสูจน์ฝีมือตัวเองให้มากที่สุด
ยกเว้นแต่ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จเท่านั้น เขาจึงจะหันกลับไปเป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนเดิม


~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
ขอเพียงเปิดโอกาสให้เขาพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น
ผู้ชายจะทำดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ยกเว้นแต่ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จเท่านั้น
เขาจึงจะหันหลับไปเป็นคนแก่ตัวเหมือนเดิม
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
เมื่อผู้ชายมีความรัก เขาสนใจคนอื่นมากพอ ๆ กับสนใจตัวเอง
เขาหลุดออกมาจากความคิดที่ทำเพื่อตัวเองมาเป็นการทำงานเพื่อคนอื่น
เขาทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขเหมือนที่ทำให้กับตัวเอง
เขาอดทนและทำทุกอย่างได้เพียงเพื่อให้เธอมีความสุขเท่านั้น
เพราะความสุขของเธอก็เหมือนกับความสุขของเขาเช่นกัน

ในวัยเด็ก ผู้ชายสนุกกับการเอาใจใส่ตัวเอง แต่เมื่อเริ่มเป็นผู้ใหญ่
การเอาใจใส่ตัวเองอย่างเดียวไม่พอ เพื่อทดแทนสิ่งที่หายไป
เขาทำให้ชีวิตตื่นเต้นขึ้นด้วยการมีความรัก ด้วยการทำสิ่งต่าง ๆ ให้คนอื่นโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
เป็นสิ่งที่เขาอยากทำมานานแล้ว แม้ว่าเขาจะต้องการความรักตอบก็ตาม
แต่ความต้องการสูงสุดของเขาก็คือการให้ความรัก

ผู้ชายไม่เพียงแต่ต้องการความรักเพียงความเดียว แต่ดิ้นรนเพื่อให้ได้ความรักเลยทีเดียว
ปัญหาก็คือผู้ชายไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาแทบไม่เคยเห็นพ่อทำความพอใจให้กับแม่ของเขาเลยสักครั้ง
ผลลัพธ์ก็คือ ทำให้เขาไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงก็คือการเป็นฝ่ายให้ เมื่อความสัมพันธ์เกิดล้มเหลว
เขาจะหดหู่ใจและติดอยู่ในถ้ำ เลิกสนใจคนอื่นและไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจึงหดหู่มากขนาดนั้น

เมื่อเป็นอย่างนี้ เขาจะวนเวียนอยู่กับการทำตัวห่างออกมาและเข้าไปอยู่ในถ้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขาถามตัวเองว่ามีชีวิตอยู่เพื่อใคร และควรจะทำอย่างไร เขาไม่เคยรู้เลยว่าการที่เขาหยุดสนใจคนอื่นนั้น
เป็นเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าสำหรับคนอื่น เขาไม่รู้ว่า
ถ้าเขาพบใครสักคนที่เห็นค่าในตัวเขาแล้ว
เขาจะสามารถสลัดความหดหู่ใจให้หมดไปและมีชีวิตที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง


~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
ถ้าไม่มีใครต้องการเขา
ก็เท่ากับว่าเขากำลังตายไปอย่างช้า ๆ นั่นเอง
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~


เมื่อผู้ชายรู้สึกว่าไม่สามารถทำให้ชีวิตของคนใดคนหนึ่งดีขึ้นได้
เป็นเรื่องลำบากที่จะคงความสัมพันธ์แบบเดิมอีกต่อไป
เขาจะตื่นเต้นได้อย่างไรถ้าไม่มีใครต้องการเขาแล้ว ถ้าอยากตื่นเต้นอีกครั้ง
ต้องมีใครสักคนที่แสดงความชื่นชม ไว้วางใจ และยอมรับในตัวเขา ถ้าไม่มีใครต้องการเขา
ก็เท่ากับว่าเขากำลังตายไปอย่างช้า ๆ นั่นเอง


เมื่อผู้หญิงรักผู้ชาย
ความรักของผู้หญิงก็เปรียบเหมือนกับที่ชาวศุกร์เชื่อวา
ชาวอังคารกำลังเดินทางมาหาเธอ ชาวศุกร์ฝันว่า
สักวันหนึ่งจะมียานอวกาศจากสวรรค์บินมาหาเธอนำความเข้มแข็งและอบอุ่นของชาวอังคารมามอบให้กับเธอ

ชาวอังคารอุทิศตัวทั้งหมดให้กับความสวยและความดีงามของชาวศุกร์
ชาวอังคารรู้ดีว่า พลังอำนาจและความสามารถของเขาจะไร้ค่าถ้าไม่มีใครให้เขาคอยดูแล
พวกเขาตื่นเต้นและยินดีที่จะมีโอกาสรับใช้ คอยเอาใจ และตอบสนองความต้องการของชาวศุกร์
จะมีอะไรมหัศจรรย์มากไปกว่านี้ได้

ความฝันแบบนี้ ทำให้ชาวศุกร์หลายคนหลุดพ้นจากความหดหู่ใจได้
พวกเธอมีความเชื่อฝังใจว่าสักวันหนึ่งชาวอังคารจะต้องมา ความหดหู่ใจของชาวศุกร์นั้น
มีสาเหตุมาจากความเหงาและอ้างว้าง ความเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาคอยช่วยเหลือพวกเธอ
ทำให้ความหดหู่ใจเลือนหายไป

ผู้ชายส่วนมากไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรู้สึกที่มีใครสักคนคอยห่วงใยสำคัญกับเธอมากขนาดไหน
ผู้หญิงจะมีความสุขเมื่อคิดว่าพวกเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
เมื่อผู้หญิงไม่พอใจ อ่อนไหว สับสน เหน็ดเหนื่อย หรือสิ้นหวัง
สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็คือเพื่อนสักคน เธอไม่ต้องการอยู่คนเดียว

ความเห็นใจ ความเข้าใจ ความมีเหตุผล และความปรารถนา
มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เธอยอมรับแรงสนับสนุนจากเขา
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความรู้สึกอันนี้ของฝ่ายหญิง เพราะสำหรับเขาแล้ว
วิธีที่ดีที่สุดเมื่อเธอไม่พอใจก็คือปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เนื่องจากนั่นเป็นวิธีที่ชาวอังคารปฏิบัติต่อกัน
เพราะเขาคิดว่าถ้าอยู่ด้วยยิ่งทำให้แย่หนักเข้าไปอีก
เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าความใกล้ชิด ความห่วงใย และการแบ่งปันความรู้สึกนั้นสำคัญมากต่อผู้หญิงมากขนาดไหน

ถ้ามีใครร่วมรับฟังความทุกข์ของเธอ เธอจะรู้สึกสบายใจขึ้น ความสงสัย และหวาดวิตกจะหายไปทันที
เธอจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เมื่อรู้ว่ายังมีคนที่รักเธออยู่โดยที่ไม่จำเป็นต้องแสวงหามัน
เธอทำตัวตามสบายได้ เป็นฝ่ายให้น้อยลงสักนิด และเริ่มเป็นฝ่ายรับมากขึ้นอีกหน่อยได้
ก็เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับอยู่แล้ว

~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
เมื่อไรที่เธอรู้ว่ายังมีคนที่รักเธออยู่ เธอจะทำตัวตามสบายได้มากขึ้น
เป็นฝ่ายให้น้อยลงสักนิด และเริ่มเป็นฝ่ายรับมากขึ้นอีกหน่อยได้
ก็เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับอยู่แล้ว
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
วิธีแก้ปัญหาของชาวอังคารและชาวศุกร์
เมื่อชาวอังคารพบปัญหา เขาไม่ชอบพูดถึงปัญหาและไม่นำปัญหาของตัวเองไปกวนใจชาวอังคารคนอื่น
ยกเว้นแต่แก้ด้วยตัวเองไม่ได้แล้วจึงจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เมื่อเจอปัญหาเขาจะหลบอยู่ใน “ถ้ำ”
คนเดียวเพื่อหาทางแก้ปัญหา ถ้าเขาหาคำตอบได้ เขาจะดีใจและออกมาจากถ้ำ

คำว่า “ถ้ำ” เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะต้องเข้าไปอยู่ในถ้ำจริง ๆ
สิ่งที่ผู้เขียนต้องการบอกก็คือ เวลาเกิดปัญหา ผู้ชายส่วนใหญ่จะเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่คนเดียว
เช่น อยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่ออกมาข้างนอก หรือไม่ก็ไม่ยอมสุงสิงกับใคร
เปรียบเหมือนกับการอยู่ในถ้ำนั่นเอง ส่วนผู้หญิงนั้นตรงกันข้าม เมื่อมีปัญหาหรือเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง
ผู้หญิงจะไม่มีทางอยู่คนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะการทำอย่างนั้นอาจทำให้เธออึดอัดใจได้
สำหรับผู้หญิงแล้ว เมื่อมีปัญหาเธอต้องการพูดหรือเล่าปัญหาให้คนที่เธอไว้ใจฟัง – ผู้เรียบเรียง

ถ้าคิดเท่าไรก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เขาจะเลือกทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ลืมปัญหานั้น
เช่น อ่านหนังสือพิมพ์หรือเล่นเกม การเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
ถ้าปัญหาใหญ่มาก เขาจะเบี่ยงเบนความสนใจไปหาเรื่องอะไรที่เสี่ยง ๆ เพื่อต้องการลืมปัญหาไว้ชั่วขณะ
เช่น ขับรถแข่ง ไปปีนเขา หรือร่วมการแข่งขันรายการอะไรสักอย่าง


~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
เพื่อความสบายใจ ชาวอังคารจะเก็บตัวอยู่ในถ้ำ
เพื่อแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~


เมื่อชาวศุกร์พบปัญหา เธอจะมองหาใครสักคนที่ไว้ใจได้และเล่าถึงปัญหาที่เจอในวันนั้นอย่างละเอียด
เมื่อชาวศุกร์ได้ระบายความรู้สึกออกมา เธอจะรู้สึกดีขึ้นทันที นี่เป็นวิถีทางแก้ปัญหาของชาวศุกร์


~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
เพื่อความสบายใจ ชาวศุกร์จะเข้าหากลุ่ม
และพูดถึงปัญหาต่าง ๆ อย่างเปิดเผย
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
บนดาวศุกร์ การเล่าปัญหาของตัวเองให้ผู้อื่นฟังถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักและความไว้ใจ
โดยไม่ถือว่าเป็นการสร้างภาระให้อีกฝ่ายหนึ่ง ชาวศุกร์ไม่อายที่จะบอกตัวเองมีปัญหา
อัตตาของพวกเธอไม่ได้อยู่ที่ว่าตัวเองต้อง “เก่ง” แต่ขึ้นอยู่กับสายสัมพันธ์ที่มีต่อกันมากกว่า
พวกเธอแลกเปลี่ยนความทุกข์ ความสับสน ความสิ้นหวังและความท้อแท้ได้อย่างเปิดเผย

ชาวศุกร์จะรู้สึกดีขึ้นมากถ้ารู้ว่าตัวเองมีเพื่อนที่สามารถเล่าเรื่องอะไรก็ได้
ชาวอังคารรู้สึกดีมากเมื่อแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ความลับในเรื่องนี้ยังใช้ได้ผลจนถึงทุกวันนี้

ได้หลบเข้าถ้ำแล้วสบายใจ
เมื่อผู้ชายพบกับปัญหาเขาจะเก็บตัวอยู่ในถ้ำของเขา และทุ่มความสนใจทั้งหมดไปกับการแก้ปัญหา
โดยปกติแล้ว เขาจะเลือกปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดหรือยากที่สุดขึ้นมาแก้ก่อน
บางครั้งผู้ชายหมกมุ่นอยู่กับปัญหาเสียจนลืมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรือความรับผิดชอบด้านอื่น ๆ ไปจนหมด

ในช่วงเวลาอย่างนี้ ผู้ชายจะมีพฤติกรรมในลักษณะที่เหินห่าง ขี้หลงขี้ลืม และเฉื่อยชา
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณคุยกับเขา เขาจะให้ความสนใจคุณเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์หมดไปกับปัญหา

เนื่องจากการหมกมุ่นอยู่กับปัญหา ทำให้เขากลายเป็นคนหลงลืมง่าย ๆ
ยิ่งปัญหาหนักเท่าไรเขายิ่งติดอยู่กับปัญหานั้นมากขึ้น
ทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะมาสนใจความต้องการของผู้หญิงได้เลย
แต่เมื่อไรที่เขาแก้ปัญหาได้เขาจะรู้สึกสบายใจและออกจากถ้ำของเขาทันที
และพร้อมที่จะกลับมาเป็นคนน่ารักได้อีกครั้ง

แต่ถ้าเขายังหาคำตอบไม่ได้ เขาก็ออกมาจากถ้ำไม่ได้ เพื่อไม่ให้ติดอยู่ในถ้ำนานเกินไป
เขาจะเลือกแก้ปัญหาที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ ดูโทรทัศน์ ขับรถ ออกกำลังกาย ดูฟุตบอล
เล่นกีฬา ฯลฯ หรือหาอะไรสักอย่างที่ใช้ความคิดเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ทำแทน
ซึ่งช่วยให้เขาลืมปัญหาได้ชั่วขณะและหลุดออกมาจากถ้ำได้
หลังจากนั้นค่อยกลับไปหาทางแก้ปัญหาเดิมใหม่อีกครั้ง

เราลองมาดูตัวอย่างหนึ่งให้ละเอียดสักหน่อย เมื่อจิมพบกับปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้
จิมจะหยิบหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน
การอ่านหนังสือพิมพ์ทำให้เขาเปลี่ยนจุดสนใจจากเรื่องของตัวเองมาเป็นเรื่องที่ปรากฏอยู่ในข่าวแทน
(ซึ่งเขาไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง) วิธีแบบนี้ทำให้เขาหลุดออกจากการติดอยู่กับปัญหาได้
และมีเวลาให้กับภรรยาและครอบครัวของเขาได้อีกครั้ง

ทอมดูฟุตบอลเพื่อผ่อนคลายความเครียด
เขาเปลี่ยนจุดสนใจจากการแก้ปัญหาของตัวเองมาแก้ปัญหาให้ทีมที่เขาชอบแทน
เขารู้สึกว่าแก้ปัญหาเกมการแข่งขันได้ ถ้าชนะเขาก็ดีใจ ถ้าแพ้เขาก็เสียใจ
แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาลืมปัญหาของตัวเองไปได้ชั่วขณะ

สำหรับทอมและผู้ชายหลายคน การดูกีฬา ข่าว หรือภาพยนตร์
ถือเป็นการปลดปล่อยความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงได้ดีที่สุด

 ผู้หญิงจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
เมื่อผู้ชายติดอยู่ในถ้ำ เขาไม่มีปัญญาเหลือพอที่จะสนใจคนรอบข้างได้อีกต่อไป
เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเธอไม่รู้ว่าปัญหาใหญ่ขนาดไหน
ถ้าเขาจะเล่าให้เธอฟังบ้าง เธอคงจะชอบมากกว่านี้ แต่ผู้ชายไม่ยอมพูด
เธอจึงรู้สึกว่าเขาไม่ให้ความสำคัญ เธอรู้ว่าเขากำลังแก้ปัญหา
แต่เธอตีความผิดที่คิดว่าการที่เขาไม่พูดกับเธอเนื่องจากเขาไม่สนใจตัวเธอ

ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชาวอังคารจัดการกับปัญหาอย่างไร
พวกเธอคิดว่าเขาจะพูดถึงปัญหาอย่างเปิดเผยเหมือนกับที่ชาวศุกร์ทำกัน
เมื่อผู้ชายติดอยู่ในถ้ำ (หรือยังแก้ปัญหาไม่ได้) ผู้หญิงโกรธที่เขาไม่ยอมบอกเธอ
เธอไม่พอใจเมื่อเห็นเขาอ่านหนังสือพิมพ์ หรือออกไปเล่นกีฬาโดยไม่สนใจเธอ

ความหวังที่จะเห็นผู้ชายที่ติดอยู่ในถ้ำกลายเป็นคนเปิดเผย กระฉับกระเฉงและน่ารักขึ้นมาทันที
เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ เหมือนๆ กับที่คาดหวังว่าผู้หญิงจะทำตัวสงบเยือกเย็นและเต็มไปด้วยเหตุผลได้ทันทีหลังจากหายโกรธแล้ว
ขอให้ผู้หญิงทั้งหลายอย่าได้หวังว่าผู้ชายจะทำตัวน่ารักกับผู้หญิงเสมอไป
และขอให้ผู้ชายทั้งหลายอย่าได้หวังว่าผู้หญิงจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยเหตุผลตลอดเวลา

เมื่อชาวอังคารอยู่ในถ้ำ พวกเขามักลืมคิดไปว่าเพื่อนของเขาก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน
สัญชาตญาณบอกว่าให้เขาสนใจตัวเองก่อนที่จะสนใจเรื่องของคนอื่น
ผู้หญิงส่วนมากไม่ชอบและรู้สึกไม่พอใจที่เห็นผู้ชายมีนิสัยแบบนี้

เธออาจเรียกร้องขอให้เขาทำในสิ่งที่เธอต้องการ คล้าย ๆ กับว่าเธอกำลังเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมที่เธอควรได้รับ
เมื่อผู้หญิงรู้ว่าผู้ชายมาจากดาวอังคาร ปัญหาความเข้าใจผิดเช่นนี้ก็หมดไป
เธอจะเข้าใจว่าพฤติกรรมต่าง ๆ ของเขานั้นเกิดจากความพยายามที่จะแก้ปัญหาของเขาเอง
มากกว่าเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีกับเธอ แทนที่จะรู้สึกโกรธเขา
เธอกลับพร้อมจะช่วยเหลือเขา

ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายจะค่อย ๆ รู้สึกถึงความห่างเหินที่เขามีต่อเธอขณะที่อยู่ในถ้ำ
เมื่อผู้ชายรู้ว่าการอยู่ในถ้ำนาน ๆ ส่งผลให้ผู้หญิงรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและไม่มีความสำคัญ
เมื่อรู้ว่าผู้หญิงมาจากดาวศุกร์แล้ว เขาจะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงได้ดีมากขึ้น
ต่อไปนี้เป็นความผิดพลาดใหญ่ ๆ 5 อย่างที่เกิดขึ้นเสมอ


1. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไม่ฟังฉันเลย”
เขาตอบว่า “หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าผมไม่ฟัง ผมจำได้ทุกคำเลยว่าคุณพูดอะไรไปบ้าง”

เมื่อผู้ชายอยู่ในถ้ำ เขาจดจำสิ่งที่เธอพูดด้วยความจำเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผู้ชายคิดว่า ถ้าเขาตั้งใจฟังได้ 5 เปอร์เซ็นต์ ก็แสดงว่าเขาฟังอยู่
แต่เธอต้องการให้เขาตั้งใจฟัง 100 เปอร์เซ็นต์


2. เมื่อเธอพูดว่า “ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีคุณอยู่ตรงนี้เลย”
เขาตอบว่า “หมายความว่าอย่าง ไรที่บอกว่าผมไม่ได้อยู่ตรงนี้? ก็ผมยืนอยู่ตรงนี้ คุณมองไม่เห็นเลยหรือ?”

เหตุผลก็คือ ถ้าเขายืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่ควรพูดคำนี้ออกมา
แต่ถึงแม้ว่าร่างกายจะยืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่รู้สึกว่าเขาอยู่ 100 เปอร์เซ็นต์
และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการพูด


3. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไม่เคยสนใจฉันเลย”
เขาตอบว่า “ผมสนใจคุณมาตลอด ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าผมพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอยู่”

เหตุผลเพราะเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับปัญหา ซึ่งถ้าหาคำตอบได้ก็จะเป็นประโยชน์กับเธอด้วยเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เธอต้องการความรักและเอาใจใส่จากเขาโดยตรง
และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการบอกจริง ๆ


4. เมื่อเธอพูดว่า “ฉันคิดว่า คุณไม่เคยเห็นความสำคัญของฉันเลย”
เขาตอบว่า “บ้าที่สุด คุณเป็นคนสำคัญที่สุดเสมอ”

เหตุผลที่เขาคิดว่าเธอเข้าใจผิดก็เพราะเขากำลังแก้ปัญหาให้เธอ
เขาไม่เฉลียวใจเลยสักนิดว่า การที่เขาสนใจปัญหาใดปัญหาหนึ่งและลืมปัญหาอื่น ๆ นั้น
สร้างความรำคาญให้คนรอบข้างมากขนาดไหน และผู้หญิงเกือบทุกคนมักเก็บไปคิด
โดยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า


5. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไร้ความรู้สึก สนใจแต่เรื่องของตัวเอง”
เขาตอบว่า “แล้วมันผิดตรงไหน? คุณคิดหรือว่าผมจะแก้ปัญหานี้ให้คุณ?”

เหตุผลก็คือ เขารู้สึกว่าเธอกำลังกล่าวโทษและเรียกร้องจากเขามากเกินไป
เนื่องจากเขากำลังทำเรื่องสำคัญเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เขารู้สึกเธอไม่ให้ความสำคัญ
แต่เขาก็ไม่สนใจความรู้สึกของเธอเช่นกัน ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่า
พฤติกรรมของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมาจากอบอุ่นเป็นดูห่างเหินได้รวดเร็วขนาดไหน
ขณะที่อยู่ในถ้ำ ผู้ชายส่วนใหญ่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองจนไม่มีเวลาคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นต่อความเฉยเมยของเขาเลย


ถ้าต้องการให้ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดี ผู้ชายและผู้หญิงต้องเขาใจซึ่งกันและกันมากขึ้นกว่านี้
เมื่อผู้ชายเริ่มไม่สนใจ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเก็บไปคิดมาก
แต่ถ้าเธอรู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหาแล้ว
จะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก

เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ผู้หญิงต้องการพูดให้ใครสักคนฟัง
ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ชายต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ
เขาต้องเข้าใจว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะพูดถึงความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งและไม่มีใครสนใจได้
เหมือนกับเขาที่มีสิทธิ์ปลีกตัวไปอยู่ในถ้ำโดยไม่พูดอะไรเลย

พิมผิดมีฮา

ลูกชายผมสองขวบมีไข่สูงมากให้กินพาราได้ไหม ขอคำตอบด่วนครับ
answer*** ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไข่มาตอบด่วนค่ะ

แฟนเป็นคนเสียวดังมากครับ ผมอายคนอื่นเค้า ผมจะเตือนเธอยังไงดีครับ
answer*** แนะนำให้ว่าเวลาจะมีอะไรกันให้หาอะไรให้เธอกัดครับ เวลาเธอเสียวก็จะ ไม่ค่อยมีเสียงเล็ดลอดออกมา

กลุ้มใจจัง แฟนผมเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ค่อยจะอม ใครง่าย ๆ
answer*** ดีแล้วล่ะค่ะ

มีพี่ที่ทำงานคนนึงเพิ่งเข้ามาทำงาน เธอเป็นลูกน้องผมแต่อายุแก่กว่าผมมาก ผมจะสอยเธอยังไงดี! ครับถึงจะไม่น่าเกลียด
answer*** ความจริงน่าจะสอยพวกเด็ก ๆ ใหม่ ๆ นะครับ ถ้าอยากสอยเธอจริง ๆ ก็ท่า พื้นฐานไปก่อนครับ พอเคย ๆ กันแล้วค่อยเปลี่ยนท่าสอยครับ แค่นั้นก็ไม่น่าเกลียด แล้วครับ

สามีมีปัญหาในการนอนค่ะเค้าชอบนอนหนุนหมอยนิ่ม ๆ ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ พอจะรู้จักยี่ห้อดี ๆ มั้ยคะ '
answer*** มียี่ห้อด้วยเหรอคะของแบบนี้

ถ้าง่วงก็ลองเคี้ยวหมาฝรั่งดูสิคะเผื่อจะหาย
answer*** ไม่ไหวค่ะกลัวมันกัดเอา

เดือนหน้าดิฉันจะมีเพื่อนฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย เค้าชอบช้างมากค่ะช่วยแนะนำทัวร์ที่มีโปรแกรมขี้ช้าง ให้หน่อยได้มั้ยคะ
answer*** ไม่มีมั้งค่ะโปรแกรมนี้

เจอรูแฟนเก่าในโทรศัพท์มือถือแฟน หมายความว่ายังงัย '
answer*** ความสามารถในการแยกแยะสูงจริง ๆ เลยค่ะเห็นแค่รูรู้เลยว่ารูใครเป็นรู ใคร

อยากไปเที่ยวท้องฟ้าจำลอง ที่ปิดไฟมืด ๆ แล้วฉายภาพดาวน่ะค่ะไม่ทราบว่าเข้าชมฟรีรึต้องเสียตั วด้วยรึป่าวคะ
answer*** เอ่อ! ไม่อยากมาเที่ยวบ้านผมบ้างเหรอ? แต่ไม่ได้ชมฟรีนะครับบ้านผม

ข่าวดีค่ะปลื้มใจอยากบอก ไปขยายรูแต่งงานมาแล้ว ออกมาสวยมากๆ ขนาดแฟนเป็นคนไม่ค่อยพูด ยังออกปากชม ไม่รู้มาก่อนว่าดีแบบนี้ เพื่อนๆ ไปขยายที่ไหนกับบ้างคะ
answer*** เรื่องนี้เก็บไว้ 2 คนก็ได้ครับ ไม่ต้องเอามา post เขิน ๆ ไงไม่รู้ เ่อ่อ! ของแฟนใหญ่มากเหรอครับ ถึงต้องไปขยายรูแต่งงานของคุณมา

พี่ ๆ ครับ ผมจะไปสอบใบขับขี่พรุ่งนี้แต่ผมยังไม่ชำนาญ เรื่องการถอยรถเข้าซ่องเลย ใครพอแนะนำเทคนิคได้บ้างครับ
answer*** แนะนำให้ดื่มเบียร์เข้าไปสักขวด แล้วไปแท๊กซี่ดีกว่าครับ สถานที่อย่าง นั้นใครเห็นรถเราเข้าไปมันไม่น่าดู เสร็จกิจแล้วก็นั่งแท๊กซี่กลับครับ

ถามเลขาค่ะ พานายฝรั่งไปไหนดีไม่ชอบซิสเลอร์เลย วันก่อนไปกินกับนายฝรั่งหลาย คน สั่งไส้กรอกรวมกินกันแล้วปรากฏว่าบรรยากาศเงียนมาก ๆ
answer*** บรรยากาศน่ากลัวนะคะ ! ฝรั่งเยอะด้วย

ผมหาร้านขายหมาฝรั่งกะลูกอมไม่เจออ่ะครับ
answer*** คงร้านเดียวกันกะร้านขายหมาไทยล่ะค่ะ

ผมมีปัญหากับแฟนใหม่ของเธอครับ ไม่น่าคิดมากเลย แค่โทรเรียกเธอมาเจอเพราะอยากเลียร์ ให้มันสบายใจทั้งสองฝ่าย
answer*** ว่าแต่ว่าเขาจะยอมทั้งสองคนเลยเหรอ?

ขอถามหน่อยค่ะ ใบพลูเดี๋ยวนี้หาซื้อได้ที่ไหน คุณยายข้างบ้านกินแต่หมาเปล่า ๆ มานานแล้ว บอกว่าเคี้ยวไม่อร่อย
answer*** กินหมาแทนพลูเลยเหรอคะ

แถวสี่พระยามีร้านอัดรูดี ๆ มั้ยครับ อ้อ แล้วรูขนาด 4' x 6' นี่จะเล็กไปมั้ยครับ
answer*** รูขนาดนั้นไม่เล็กแล้วครับ อย่างนั้นเค้าเรียกบานครับ

จะไปเชียงใหม่ค่ะหนุ่มคนเมืองที่ไหนพอแนะนำได้บ้างคะ อยากถามว่า ขนมจีนน้ำเจี๊ยวที่ไหนอร่อยบ้าง
answer*** ถ้าเจอที่ไหนอร่อย ๆ อย่าลืมกลับมาแนะนำด้วยนะคะ

จริงๆหงส์น่าจะไม่แพ้เป็นอย่างน้อยถ้า(ตั้งช้าหน่อยค รับเพิ่งว่าว)
answer*** ทราบแล้วเปลี่ยนค่ะ ว่า เจ้าของกระทู้ยังโสด

ผมตกขาวมากเลยครับ เกือบไม่ได้ไปดูงาน NIKON DAY 2006
answer*** นึกว่าเป็นแต่ผู้หญิงผู้ชายก็ตกเหมือนกันเหรอค่ะ

นศ. หญิงสมัยนี้ทำไมชอบใส่เสื้อชายสั้นๆ แล้วปล่อยให้หอยออกมาอยู่นอกกระโปรงกัน นะ ไม่น่ารักเลย
answer*** ขนาดนั้นเลยเหรอะ

ผมหาลึงค์กระทู้ไม่เจอแล้วสิ
answer*** คงอยู่ที่เดียวกันกะในกางเกงล่ะค่ะดิฉันว่า

ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพฺ์วันเดียว ตกขาวเลยละเธอ
answer*** โหน่ากลัวเนาะ พรุ่งนี้ต้องรีบหาอ่านแล้วล่ะ

ถามท่านผู้รู้หน่อยคับ : ทำไงดีคับ เครื่องเสียวผมใช้งานไม่ได้
answer*** ไม่มีความเห็นค่ะ รอผู้รู้มาตอบละกัน

กิ้ก(แก้เครียด)

เฮฮา ขำๆ แก้เครียดเข้ามาไม่เม้นล่ะ หน้าดู

ให้แฟนมีกิ๊กเลยยยยยยยยยยย(ล้อเล่นน๊า)

ก.กิ๊ก หาไม่ยาก ไม่ลำบากแค่ม่อไว้
ข.ไข่ ไขหัวใจ ไช้คารมนิยมกัน
ฃ.ขวด ชวนดวดเหล้า เมื่อกิ๊กเราสนิทกัน
ค.ควาย ใช้เรียกกัน เมื่อแฟนท่านเป็นกิ๊กเรา
ฅ.ฅน ค้นหาไป ค้นหาใคร ถูกใจเขา
ฆ.ระฆัง ดังปลุกเร้า ให้ใจเราเส่ากระสั่น
ง.งู อยู่บนหัว มีกันทั่ว ตัวเราท่าน
จ.จูบ จูบเธอนั่น สุดระส่ำ สำราญใจ
ฉ.ฉิ่ง หญิงกิ๊กคู่ เพลินเพลินอยู่ มิสนไข่
ช.ช้าง ช่างประไร เรื่องหัวใจ ไม่เกี่ยวกัน
ซ.โซ่ อย่าเซ่อซ่า แฟนเดินมา พากิ๊กหลบพลัน
ฌ.เฌอ บอกเธอนั่น แค่เพื่อนกัน มิมีไร
ญ.หญิง นั่นโปรดรู้ ผู้ชายเจ้าชู้ พิสูจน์ดูได้
ฎ.ชฎา พาสวมใส่ ต่อหน้าแฟนไซร้ จำต้องใส่ชฎา
ฏ.ปฏัก รักแอบซ่อน สาววัยละอ่อน ร่อนหัวใจมา
ฐ.ฐาน มิพานช้า รากฐานแน่นหนา พาแฟนเชื่อใจ
ฒ.เฒ่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
ณ.ณรงค์ จงต่อสู้ บอกให้รู้ ให้ชัดเจน
ด.เด็ก ที่เธอเห็น เป็นเพียงเพื่อนโปรดเชื่อที
ต.เต่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
ธ.ธำรงค์ [...]

...............................................

'ภรย ตา มา ปรมา ทุกขา 'การมีภรรยา มีทุกข์อย่าง ยิ่ง

…มีเมีย เหมือนมือถือ……เป็นเหมือนสื่อ คอยติดตาม

มีเมีย เหมือนมียาม ………คอยสอบถาม ยุ่มย่ามใจ

…มี เมีย เหมือนมีบ้าน …..อยู่นานนาน ย่อมเบื่อได้

มีเมีย เหมือน มอไซค์ ……ซิ่งเร็วไป อาจเสี่ยงตาย

…มีเมีย เหมือนมีรถ ……..ราคาหด เวลาขาย

มีเมีย เหมือนผีพราย ……..หากร่างกายไม่แต่งเติม

…มีเมีย เหมือนม้าห้อ ……ควบไม่รอ ยามฮึกเหิม

มีเมีย เหมือนบัตรเสริม ……ต้องคอยเติมเงินเรื่อยไป

…มี เมีย เหมือนปีศาจ ……ยามอาละวาดน่าตกใจ

มีเมีย เหมือนมี ไห………..ปลาร้าใส่ หลายร้อยปี

…มีเมีย เหมือนมีคอมพ์ …..ต้องคอยซ่อม บ่อยเหลือที่

มีเมีย เหมือนปลา กระดี่ …..ได้น้ำดี ก็จากไป

…มีเมีย เหมือนดั่งเสือ ……ขย้ำเหยื่อ จะเหลือไร

มีเมีย เหมือนกรรไกร……….ตัดทีไร ขาดทุกที

…มี เมีย ชอบจ่ายดะ ……..ซื้อไม่ละ..นะคุณพี่

มีเมีย ชอบ เซ้าซี้ …………บ่นทุกที ที่เจอกัน

…มีเมีย ละเหี่ย ใจ………..แล้วทำไมชอบมีกัน

ชาติหน้า จำให้มั่น…………ไม่ลืมกัน อย่ามีเมีย


...........................................................................

รักผัว อย่างไร ให้ผัวรักผัวหลง

รักผัว ต้องให้ผัว หมดทั้งตัว หมดทั้งใจ
รักผัว ต้องอ่อนไหว ผัวว่าไง ต้องว่าตาม

รักผัว ต้องเคารพ ต้องประจบ ไม่ลามปาม

รักผัว ต้องคล้อยตาม ไม่วู่วาม คอยเอาใจ

รักผัว ต้องอดทน ผัวเป็นคน ไม่ยอมใคร

รักผัว ต้องทำใจ ใช่ผัวใคร ก็ผัวเรา

รักผัว ต้องหมั่นสวย เดี๋ยวจะซวย ผัวไม่เอา

รักผัว ต้องคอยเฝ้า ถึงผัวเมา ก็ตามใจ

รักผัว ต้องฝึกฝน ผัวเป็นคน ชอบของใหม่

รักผัว ต้องเข้าใจ ผัวไปไหน อย่าห้ามปราม

รักผัว ต้องแข็งแรง ต้องพลิกแพลง ให้วาบหวาม

รักผัว ต้องทุกยาม ไม่ซักถาม ให้กวนใจ

รักผัว ต้องกล้าเสีย ยกน้องเมีย ให้ผัวไป

รักผัว ต้องสนใจ ผัวเป็นไง ต้องคอยดู

รักผัว ต้องพูดง่าย ไม่โวยวาย ไม่ลบหลู่

รักผัว ต้องเฝ้าดู หาอีหนู มาเอาใจ

รักผัว ต้องเชื่อฟัง ผัวเสียงดัง ต้องทนไหว

รักผัว ต้องรู้ใจ ผัวอยากได้ ต้องหามา

รักผัว ต้องใจเย็น ผัวเป็นเช่น เทวดา

รักผัว ต้องบูชา ผัวมีค่ากว่าสิ่งใด

รักผัว ต้องรักเดียว อย่าไปเที่ยว รักผัวใคร

รักผัว ต้องแน่ใจ ผัวของใคร ก็ของมัน

รักผัว ต้องแน่วแน่ ต้องรักแท้ ผัวของฉัน

รักผัว ต้องยึดมั่น ทุกข้อนั้น สำคัญเอย





อ้างอิงจาก
http://board.narak.com/topic.php?No=442321

ผลร้ายของการขาดออกกำลังกาย

การขาดการออกกำลังกายจะทำให้ผลในทางตรงข้ามกับผลการออกกำลังกายต่ออวัยวะและหน้าที่ของอวัยวะ โดยทำให้เกิด ความเสื่อมของสมรรถภาพร่างกาย และเป็นสาเหตุนำของโรคหลายชนิดในคนวัยกลางคนและคนสูงอายุ เช่น

1.    โรคประสาทเสียดุลยภาพ

ตามปกติการทำงานของอวัยวะภายในอยู่ในการควบคุมของระบบประสาทเสรี 2 ระบบ ซึ่งทำงานต่อต้านซึ่งกัน และกันในสภาพสมดุล การขาดการออกกำลังทำให้การทำงานของประสาทระบบเสรีระบบหนึ่งลดลง การทำงานของอีกระบบ จึงเด่นขึ้น เป็นผลให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะภายในที่ถูกควบคุมอยู่ ที่เห็นได้ชัดได้แก่ ระบบทางเดินอาหาร โดยมีอาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูกประจำ และมีอาการของโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ อาทิ เป็นลมบ่อย เหงื่อออกตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ใจสั่น นอนไม่หลับ ฯลฯ

2.    โรคหลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพ

การขาดการออกกำลัง (ประกอบกับปัจจัยอื่น เช่น กินอาหารเกิน ความเคร่งเครียดทางจิตใจ การสูบบุหรี่มาก ฯลฯ) ทำให้หลอดเลือดต่าง ๆ เสียความยืดหยุ่น มีธาตุหินปูนและไขมันไปพอกพูน ทำให้หลอดเลือดตีบแคบเกิดการอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะที่หัวใจ อาการของโรคนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและตำแหน่งของหลอดเลือดที่ถูกอุดตัน ในขั้นที่เป็นน้อยอาจมีอาการเพียง เจ็บแน่นหน้าอกระยะสั้นเป็นครั้งคราวแต่ในขั้นที่เป็นมากจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกอยู่นานหรือเกิดการหัวใจวายอย่างปัจจุบันได้

3.    โรคความดันเลือดสูง

จากสภาพของหลอดเลือดทั่วไปที่มีการเสื่อมประกอบกับสภาวะทางจิตใจและการเสียดุลยภาพของระบบประสาท  อันเนื่องมาจากการขาดการออกกำลังผู้ที่ขาดการออกกำลังจะมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้มากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

4.    โรคอ้วน

การขาดการออกกำลังทำให้การเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานน้อยลง จึงมีการสะสมอาหารส่วนเกิน ไว้ในสภาพ ไขมัน  การมีไขมันเกินถึงร้อยละ 15 ของน้ำหนักตัวที่ควรเป็น ถือว่าเป็นโรค แต่อาการของโรคจะแสดงออกมาในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เข่น ระบบการเคลื่อนไหวมีการติดขัดไม่คล่องตัว ระบบการหายใจและไหลเวียนเลือดมีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น ความอ้วนยังเป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ อีกมาก อาทิเช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง และโรคหัวใจ

5.    โรคเบาหวาน

จริงอยู่โรคเบาหวานเป็นโรคทางกรรมพันธุ์และความผิดปกติของต่อมที่ที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่การออกกำลังสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลโดยเผาผลาญให้เป็นพลังงาน ผู้ที่ออกกำลังเป็นประจำแม้จะมีโอกาสเป็น เบาหวานอยู่ในตัวแล้วก็ตาม อาจไม่แสดงออกมาเลยตลอดชีวิต ตรงกันข้ามกับผู้ที่ขาดการออกกำลังจะเป็นโรคเบาหวาน ได้เร็วกว่าที่ควรเป็น ดังนี้จึงถือว่าการขาดการออกกำลังเป็นสาเหตุนำอย่างหนึ่งของโรคเบาหวาน

6.    โรคของข้อต่อและกระดูก

การขาดการออกกำลังทำให้ข้อต่อต่าง ๆ ได้รับการใช้งานน้อย จึงเกิดการเสื่อมได้เร็ว โดยเฉพาะที่เยื่อบุและเอ็นหุ้มข้อต่อซึ่งจะมีการอักเสบและมีธาตุหินปูนเกาะ ทำให้เกิดการติดขัดและเจ็บปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหว ที่กระดูกจะมีการเคลื่อนย้ายธาตุหินปูนออกไปจากกระดูก ทำให้กระดูกบางลง เปราะแตกหักง่าย

อ้างอิงจาก

ผลดีของการออกกำลังกาย

 การออกกำลังกายเป็นยาอายุวัฒนะขนานหนึ่งที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพียงแต่มีเวลาและขยันก็เพียงพอแล้ว ซึ่งวงการแพทย์ ในประเทศที่เจริญก้าวหน้าจะใช้วิธีนี้ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน หากเปรียบเทียบกับยาแล้วการออกกำลังกายถือ เป็นยา ครอบจักรวาล เพราะใช้ป้องกันโรคได้เกือบทุกโรคก็ว่าได้ โดยเฉพาะในวัยเด็กการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความสุขได้ และหากมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน แต่ละครั้งควรใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที จะทำให้อายุยืนยาวขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผลการวิจัยพบว่าผู้สูงอายุของประเทศญี่ปุ่นอายุยืนที่สุดเฉลี่ย 79 ปี มาเลเซีย 71 ปี และไทย 69 ปี
           การออกกำลังจะมีประโยชน์คือ ทำให้ความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ ระดับโคเลสเตอรอลลดลง ทำให้ร่างกายกระฉับ กระเฉงคล่องแคล่ว ว่องไวขึ้น ช่วยคลายความเครียดได้ และหลังจากการออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นคอฟฟิน ออกมาจะทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น เพราะสภาพจิตใจกล้ามเนื้อ จะคลายความเครียดลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ และ สิ่งสำคัญคือ การออกกำลังกายจะช่วยชลอความแก่ และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดีกว่าจะปล่อยเวลาให้หมดไปโดยไม่มีประโยชน์

เทคนิคการอ่าน

การอ่าน คือ การรับรู้ความหมายจากถ้อยคำที่ตีพิมพ์อยู่ในสิ่งพิมพ์หรือในหนังสือ เป็นการรับรู้ว่าผู้เขียนคิดอะไรและพูดอะไร โดยเริ่มต้นทำความเข้าใจถ้อยคำแต่ละคำเข้าใจวลี เข้าใจประโยค ซึ่งรวมอยู่ในย่อหน้า เข้าใจแต่ละย่อหน้า ซึ่งรวมเป็นเรื่องราวเดียวกัน
การอ่านเป็นการบริโภคคำที่ถูกเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์ การอ่านโดยหลักวิทยาศาสตร์ เริ่มจากการที่แสงตกกระทบที่สื่อ และสะท้อนจากตัวหนังสือผ่านทางเลนส์นัยน์ตา และประสาทตาเข้าสู่เซลล์สมองไปเป็นความคิด (Idea) ความรับรู้ (Perception) และก่อให้เกิดความจำ (Memory) ทั้งความจำระยะสั้น และความจำระยะยาว

กระบวนการอ่าน มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นแรก การอ่านออก อ่านได้ หรืออ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ขั้นที่สองการอ่านแล้วเข้าใจ ความหมายของคำ วลี ประโยค สรุปความได้ ขั้นที่สามการอ่านแล้วรู้จักใช้ความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์และออกความเห็นในทางที่ขัดแย้งหรือเห็นด้วยกับผู้เขียนอย่างมีเหตุผล และขั้นสุดท้ายคือการอ่านเพื่อนำไปใช้ ประยุกต์ใช้ในเชิงสร้างสรรค์ ดังนั้นผู้ที่อ่านได้และอ่านเป็นจะต้องใช้กระบวนการทั้งหมดในการอ่านที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการถ่ายทอดความหมายจากตัวอักษรออกมาเป็นความคิด และจากการคิดที่ได้จากการอ่านผสมผสานกับประสบการณ์เดิม และสามารถความคิดนั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป


เนื้อหา

 1. คุณค่าของการอ่าน
 2. การเตรียมพร้อมเพื่อการอ่าน
 3. การเลือกสรรวัสดุการอ่าน
 4. การกำหนดจุดมุ่งหมายการอ่าน
 5. วิธีการอ่านที่เหมาะสม


คุณค่าของการอ่าน วัตถุประสงค์ในการอ่านของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกันออกไป เช่น อ่านเพื่อความรู้ อ่านเพื่อให้เกิดความคิด อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน อ่านเพื่อความจรรโลงใจ เป็นต้น ซึ่งผู้อ่านจำเป็นต้องทราบจุดมุ่งหมายของการอ่านนั้นๆ ไว้ก่อนการอ่านทุกครั้ง อย่างไรก็ตามการอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นการช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน การอ่านมีความจำเป็นต่อการศึกษาเล่าเรียน ทั้งในระบบและนอกระบบ คนที่เรียนหนังสือเก่งมักจะเป็นคนที่อ่านหนังสือเก่ง เพราะการอ่านช่วยให้ได้รับความรู้และความเข้าใจที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ และสามารถศึกษาต่อในระดับสูงได้ การอ่านมีคุณค่าต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นการสนองความต้องการของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดความรู้ ยกระดับสติปัญญาให้สูงขึ้น ทำให้มนุษย์เกิดความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาความคิดให้ก้าวหน้า ส่งผลต่อการพัฒนาในอาชีพ ทำให้มนุษย์ทันต่อเหตุการณ์ ได้รับความรู้เพิ่ม ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ช่วยให้มนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้ ช่วยพัฒนาจิตใจให้งอกงาม ช่วยขจัดความทุกข์ ความเศร้าหมอง การอ่านทำให้เกิดความเข้าใจ ความร่วมมือในการอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้รับความเพลิดเพลินและพักผ่อนหย่อนใจ 


การเตรียมพร้อมเพื่อการอ่าน 
การอ่านจะดำเนินไปได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และองค์ประกอบที่อยู่ภายในร่างกาย การอ่านท่ามกลางบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม จะนำมาซึ่งประสิทธิและประสิทธิผลในการอ่าน ทั้งนี้ควรคำนึงถึง
  1. การจัดสถานที่และสิ่งแวดล้อม สถานที่ที่เหมาะกับการอ่านควรมีความเงียบสงบ ตัดสิ่งต่างๆ ที่รบกวนสมาธิออกไป มีอุณหภูมิและแสงสว่างที่เหมาะสม มีโต๊ะที่มีความสูงพอเหมาะและเก้าอี้ที่นั่งสบายไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป
  2. การจัดท่าของการอ่าน ตำแหน่งของหนังสือควรอยู่ห่างประมาณ 35-45 เซนติเมตร และหน้าหนังสือจะต้องตรงอยู่กลางสายตา ควรนั่งให้หลังตรงไม่ควรนอนอ่าน ทั้งนี้เพื่อให้สมองได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ ก็จะทำให้เกิดการตื่นตัวต่อการรับรู้ จดจำ และอ่านได้นาน
  3. การจัดอุปกรณ์ช่วยในการอ่าน การอ่านอาจมีอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กระดาษสำหรับบันทึกดินสอ ปากกา ดินสอสี
  4. การจัดเวลาที่เหมาะสม สำหรับนักศึกษาที่ต้องมีการทบทวนบทเรียนควรอ่านหนังสือในช่วงที่เหมาะสมคือช่วงที่ที่ไม่ดึกมาก คือ ตั้งแต่ 20.00 - 23.00 น. เนื่องจากร่างกายยังไม่อ่อนล้าเกินไปนัก หรืออ่านในตอนเช้า 5.00-6.30 น. หลังจากที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ในการอ่านแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 50 นาทีและให้เปลี่ยนแปลงอิริยาบถสัก 10 นาทีก่อนลงมืออ่านต่อไป
  5. การเตรียมตนเอง ได้แก่ การทำจิตใจให้แจ่มใส มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ และมีสมาธิในการอ่าน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ มีสุขภาพสายตาที่ดี ตัดปัญหารบกวนจิตใจให้หมด การแบ่งเวลาให้ถูกต้อง และมีระเบียบวินัยในชีวิตโดยให้เวลาแต่ละวันฝึกอ่านหนังสือ และพยายามฝึกทักษะใหม่ๆ ในการอ่าน เช่น ทักษะการอ่านเร็วอย่างเข้าใจ เป็นต้น
การเลือกสรรวัสดุการอ่านการเลือกสรรวัสดุการอ่าน ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของการอ่าน เช่น การอ่านเพื่อการศึกษา การอ่านเพื่อหาข้อมูลประกอบการทำงาน การอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน การอ่านเพื่อฆ่าเวลา การรู้จักเลือกวัสดุการอ่านที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ตามเป้าหมาย การเลือกสรรวัสดุการอ่านมีความสัมพันธ์กับการเลือกใช้ทรัพยากรสารนิเทศในห้องสมุด เช่น
  1. การอ่านเพื่อความรู้ เช่น ตำราวิชาการ
  2. การอ่านเพื่อความบันเทิงใจ
  3. การอ่านเพื่อเป็นกำลังใจ เสริมสร้างปัญญา เช่น หนังสือจิตวิทยา หนังสือธรรมะ
  4. การอ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
เมื่อเลือกวัสดุการอ่านหรือหนังสือได้แล้ว ก็จะต้องกำหนดว่าต้องการอะไรข้อมูลในลักษณะใดจากหนังสือเล่มนั้น ขอบเขตของข้อมูลในลักษณะกว้างหรือแคบแต่ลึกซึ้ง ทั้งนี้เพื่อกำหนดรูปแบบการอ่านเพื่อความต้องการต่อไป


การกำหนดจุดมุ่งหมายการอ่าน
การรู้ความมุ่งหมายในการอ่านเปรียบเหมือนการรู้จุดหมายปลายทางของการเดินทาง ทำให้สามารถเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ และเดินทางไปสู่ที่หมายได้ นักอ่านที่ดีควรมีจุดมุ่งหมายว่าต้องการอ่านเพื่ออะไร เพื่อจะได้กำหนดวิธีอ่านได้เหมาะสม การอ่านเพื่อการศึกษาค้นคว้าและทำรายงาน มีจุดมุ่งหมายดังนี้
1. อ่านเพื่อความรู้พื้นฐาน เป็นการอ่านเพื่อรู้เรื่องโดยสังเขป หรือเพื่อลักษณะของหนังสือ เช่น การอ่านเพื่อ รวบรวมสิ่งพิมพ์ที่จะใช้ในการค้นคว้าและเขียนรายงาน
2. อ่านเพื่อรวบรวมข้อมูล เป็นการอ่านให้เข้าในเนื้อหาสาระ และจัดลำดับความคิดได้ เพื่อสามารถรวบรวม และบันทึกข้อมูลสำหรับเขียนรายงาน
3. อ่านเพื่อหาแนวคิด หมายถึง การอ่านเพื่อรู้ว่าสิ่งที่อ่านนั้นมีแนวคิดหรือสาระสำคัญอย่างไร จะนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ในลักษณะใด เช่น การอ่านบทความ และสารคดีเพื่อหาหัวข้อสำหรับเขียนโครงร่างรายงาน
4. อ่านเพื่อวิเคราะห์หรือวิจารณ์ คือการอ่านเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งพอที่จะนำความรู้ไปใช้ หรือแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องที่อ่านได้ เช่น การอ่านบทความที่แสดงความคิดเห็น การอ่านตารางและรายงาน


วิธีการอ่านที่เหมาะสมการอ่านมีหลายระดับและมีวิธีการต่างๆ ตามความมุ่งหมายของผู้อ่าน และประเภทของสื่อการอ่าน การอ่านเพื่อการศึกษา ค้นคว้าและเขียนรายงาน อาจใช้วิธีอ่านต่าง ๆ เช่น การอ่านสำรวจ การอ่านข้าม การอ่านผ่าน การอ่านจับประเด็น การอ่านสรุปความ และการอ่านวิเคราะห์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
  1. การอ่านสำรวจ คือ การอ่านข้อเขียนอย่างรวดเร็ว เพื่อรู้ลักษณะโครงสร้างของข้อเขียน สำนวนภาษา เนื้อเรื่องโดยสังเขป เป็นวิธีอ่านที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเลือกสรรสิ่งพิมพ์ สำหรับใช้ประกอบการค้นคว้า หรือการหาแนวเรื่องสำหรับเขียนรายงาน และรวบรวมบรรณานุกรมในหัวข้อที่เขียนรายงาน
  2. การอ่านข้าม เป็นวิธีอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าใจเนื้อหาของข้อเขียน โดยเลือกอ่านข้อความบางตอน เช่น การอ่านคำนำ สาระสังเขป บทสรุป และการอ่านเนื้อหาเฉพาะตอนที่ตรงกับความต้องการ เป็นต้น
  3. การอ่านผ่าน เป็นการอ่านแบบกวาดสายตา (Scanning Reading) โดยผู้อ่านจะทำการกวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปยังสิ่งที่เป็นเป้าหมายในข้อเขียน เช่น คำสำคัญ ตัวอักษร หรือ สัญลักษณ์ แล้วอ่านรายละเอียดเฉพาะที่เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการ เช่น การอ่านเพื่อค้นหาชื่อในพจนานุกรม และการอ่านแผนที่
  4. การอ่านจับประเด็น หมายถึง การอ่านเรื่องหรือข้อเขียนโดยทำความเข้าใจสาระสำคัญในขณะที่อ่าน มักใช้ในการอ่านข้อเขียนที่ไม่ยาวนัก เช่น บทความ การอ่านเร็วๆ หลายครั้งจะช่วยให้จับประเด็นได้ โดยการอ่านมีเทคนิคคือ ต้องสังเกตคำสำคัญ ประโยคสำคัญที่มีคำสำคัญ และทำการย่อสรุปบันทึกประโยคสำคัญไว้ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
  5. การอ่านสรุปความ หมายถึง การอ่านโดยสามารถตีความหมายสิ่งที่อ่านได้ถูกต้องชัดเจนเข้าใจเรื่องอย่างดี สามารถแยกส่วนที่สำคัญหรือไม่สำคัญออกจากกัน รู้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง หรือข้อคิดเห็น ส่วนใดเป็นความคิดหลัก ความคิดรอง การอ่านสรุป ความมีสองลักษณะคือ การสรุปแต่ละย่อหน้าหรือแต่ละตอน และสรุปจากทั้งเรื่อง หรือทั้งบท การอ่านสรุปความควรอย่างอย่างคร่าว ๆ ครั้งหนึ่งพอให้รู้เรื่อง แล้วอ่านละเอียดอีกครั้งเพื่อเข้าใจเรื่องอย่างดี หลักจากนั้นตั้งคำถามตนเองในเรื่องที่อ่านว่าเกี่ยวกับอะไร มีเรื่องราวอย่างไร แล้วเรียบเรียงเนื้อหาเป็นสำนวนภาษาของผู้สรุป
  6. การอ่านวิเคราะห์ การอ่านเพื่อค้นคว้าและเขียนรายงานโดยทั่วไปต้องมีการวิเคราะห์ความหมายของข้อความ ทั้งนี้เพราะผู้เขียนอาจใช้คำและสำนวนภาษาในลักษณะต่าง ๆ อาจเป็นภาษาโดยตรงมีความชัดเจนเข้าใจง่าย ภาษาโดยนัยที่ต้องทำความเข้าใจ และภาษาที่มีความหมายตามอารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียน ผู้อ่านที่มีความรู้เรื่องคำศัพท์และสำนวนภาษาดี มีประสบการณ์ ในการ อ่านมากและมีสมาธิในการอ่านดี ย่อมสามารถวิเคราะห์ได้ตรงความหมายที่ผู้เขียนต้องการสื่อ และสามารถเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ดี

กลอนรัก(Englich)

Sending  my  love  to  you,
On  the  day  I?m  very  thought  of  you.

ส่งคำ ? รัก?  มาให้  ในวันที่หัวใจเปี่ยมด้วยความคิดถึง










The  happy  time  in  my  life  is  doing  everything  for  you.

ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน  คือการได้กระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ



Don?t  forget  to  remember  me  and  the  love  that?s  used  to  be
I?m  still  remember  you  and  everything  we?re  used  to  do.

อย่าลืมฉัน  อย่าลืมวันที่เคยใกล้
อย่าลืมนึกถึงหัวใจ  ที่ใครหนึ่งฝากไว้ให้เธอดูแล







Don?t  throw  my  love  away, you  might  need  it  someday.

ความรักของฉันอาจไร้ค่า  แต่โปรดอย่าทำลายจะได้ไหม
บางทีในวันหนึ่งซึ่งเธอไม่มีใคร
อาจเป็นสิ่งที่เติมความหมายในใจเธอ







อ้างอิง จาก  http://www.kaweeclub.com/b6/t907/




I?ve  know  many  people  in  this  world
But  l?ve  a  few  to  understand  and  truly  love  me.
One  of  them  is  you

มีคนมากมายในโลกกว้างที่ฉันรู้จัก  แต่มีอยู่น้อยคนคน
ที่ฉันมั่นใจว่ารักและเข้าใจฉันจริง  คนดี..เธอคือคนหนึ่งนั้น











I love you baby
I wish you love me only
I miss you when I lonely
Are you really thinks likes me

ฉันรักเธอนะคนดี
ฉันขอให้เธอมีฉันเพียงคนเดียว
ฉันคิดถึงเธอเวลาที่ฉันโดดเดี่ยว
เธอเคยคิดเหมือนฉันบ้างรึเปล่า

#####ฝึกทักษะสมองสองซีก

แหล่งที่ผมหามาอาจจะช่วยคุณใช้สมองให้มากขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้อ่านบล็อกนี้ครับ
ถ้ายากไปก็ขออภัย แต่ถ้าใครอยากลองฝึกก็พอได้ครับ ผมจะพยายามหาสิ่งดีๆมา ลับสมอง เพิ่มไอคิวแก่ ทุกคน เพื่อคนไทยจะได้ฉลาด (มากขึ้น ไม่ใช่โง่ครับ คนไทยก็ฉลาดครับ)หวังว่าจะช่วยทุกท่านให้ฉลาดมากกว่าเดิมนะครับ ที่ผมไปดูมาก็มีน่าสนใจอยู่ครับ
1.คำถาม ฝึกสมอง ยากไปนิดนึง สำหรับบางคน
http://www.thisisyb.com/forum/index.php?topic=427.0
เฉลยอยู่ที่หน้า 3 ผมอ่านแล้ว
2.คำถามของ อัลเบิร์ท ไอสไตน์
ผมทำแล้วครับสนุกจริงๆ
3.เล่นคิดมากแล้วก็พักซักหน่อยจะดีต่อสมองครับ แล้วมาต่อที่เกมส์นี้เลย
สนุกดีครับ
4.เกมส์ฝึกสมาธิครับโยนหิน เหอะๆครายเครียด แต่ต้องโหลดแฮะเซง
5.ไม่เล่นก็ต่อที่นี่เลย เกมส์พัสเซิน
6.เล่นเกมส์มากไปเดี๋ยวติด คำถามครับ
อ่านยากไปหน่อยครับ
6.ปริศนาคำทาย
สนุกดีเหมือนกันครับ
7.ใช้สมองซีกขวาอ่านหนังสือ